Deny vs. Reject: คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่มักทำให้สับสน

หลายคนเรียนภาษาอังกฤษมักจะสับสนระหว่างคำว่า "deny" และ "reject" เพราะดูเหมือนมีความหมายใกล้เคียงกัน แต่ความจริงแล้วมีความแตกต่างกันสำคัญอยู่ "Deny" หมายถึงปฏิเสธความจริงหรือข้อเท็จจริง ส่วน "reject" หมายถึงปฏิเสธสิ่งที่ถูกเสนอมา หรือปฏิเสธไม่รับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ลองมาดูความแตกต่างกันอย่างละเอียดพร้อมตัวอย่างประโยคกันเลยค่ะ

Deny (ปฏิเสธ) มักใช้กับการปฏิเสธความจริง ความรับผิดชอบ หรือข้อกล่าวหา ตัวอย่างเช่น:

  • He denied stealing the money. (เขาปฏิเสธว่าไม่ได้ขโมยเงิน)
  • She denied knowing anything about the accident. (เธอปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่องอุบัติเหตุเลย)
  • The suspect denied all the charges against him. (ผู้ต้องสงสัยปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดที่ถูกตั้งขึ้นกับเขา)

Reject (ปฏิเสธ) มักใช้กับการปฏิเสธสิ่งของ คำขอ หรือข้อเสนอ ตัวอย่างเช่น:

  • The company rejected his application. (บริษัทปฏิเสธใบสมัครของเขา)
  • She rejected his marriage proposal. (เธอปฏิเสธคำขอแต่งงานของเขา)
  • I rejected the offer because the salary was too low. (ฉันปฏิเสธข้อเสนอเพราะเงินเดือนน้อยเกินไป)
  • The machine rejected the faulty card. (เครื่องจักรปฏิเสธบัตรเสีย)

สังเกตได้ว่า "deny" เน้นไปที่การปฏิเสธความจริง ในขณะที่ "reject" เน้นไปที่การปฏิเสธสิ่งของหรือข้อเสนอ การแยกแยะความหมายสองคำนี้จะช่วยให้การใช้ภาษาอังกฤษของคุณแม่นยำมากยิ่งขึ้น

Happy learning!

Learn English with Images

With over 120,000 photos and illustrations