คำว่า "divide" และ "separate" ในภาษาอังกฤษนั้นแม้จะแปลเป็นภาษาไทยว่า "แยก" เหมือนกัน แต่ก็มีความหมายและการใช้งานที่แตกต่างกัน "Divide" มักจะหมายถึงการแบ่งสิ่งต่างๆ ออกเป็นส่วนๆ โดยเน้นการแบ่งอย่างเท่าๆ กัน หรือแบ่งตามสัดส่วน ส่วน "separate" หมายถึงการแยกสิ่งต่างๆ ออกจากกัน โดยไม่จำเป็นต้องแบ่งอย่างเท่าๆ กัน หรืออาจหมายถึงการแยกออกจากกันโดยสิ้นเชิง
ลองดูตัวอย่างประโยคต่อไปนี้เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นนะคะ:
Divide:
English: We divided the pizza into eight slices.
Thai: เราแบ่งพิซซ่าเป็นแปดชิ้น
English: The teacher divided the class into four groups.
Thai: ครูแบ่งห้องเรียนออกเป็นสี่กลุ่ม
ในตัวอย่างข้างต้น จะเห็นว่าการใช้ "divide" เน้นการแบ่งสิ่งของหรือกลุ่มคนออกเป็นส่วนๆ อย่างมีสัดส่วน การแบ่งพิซซ่าเป็นชิ้นเท่าๆ กัน และการแบ่งห้องเรียนเป็นกลุ่มๆ
Separate:
English: Please separate the white shirts from the colored shirts.
Thai: กรุณาแยกเสื้อสีขาวออกจากเสื้อสีอื่นๆ
English: The warring countries finally separated after years of conflict.
Thai: ประเทศที่ทำสงครามกันในที่สุดก็แยกจากกันหลังจากความขัดแย้งหลายปี
ในตัวอย่างนี้ "separate" ใช้เพื่อเน้นการแยกสิ่งของหรือสิ่งต่างๆ ออกจากกันโดยไม่จำเป็นต้องแบ่งเป็นส่วนเท่าๆ กัน อาจแยกเพื่อจัดหมวดหมู่ หรือแยกออกจากกันโดยสิ้นเชิง
นอกจากนี้ "divide" ยังสามารถใช้ในความหมายของการแบ่งแยก เช่น "The river divides the city into two parts." (แม่น้ำแบ่งเมืองออกเป็นสองส่วน) ซึ่งแสดงถึงการแบ่งแยกทางกายภาพ แต่ "separate" สามารถใช้ในความหมายที่กว้างกว่า เช่น การแยกตัว การแยกทาง หรือการหย่าร้าง
Happy learning!