หลายคนเรียนภาษาอังกฤษอาจจะงงๆ กับคำว่า fix กับ repair เพราะดูเหมือนจะแปลว่า “ซ่อม” เหมือนกัน ความจริงแล้วทั้งสองคำมีความหมายใกล้เคียงกัน แต่ก็มีความแตกต่างกันอยู่ โดยทั่วไปแล้ว fix จะหมายถึงการซ่อมแซมเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำได้ง่ายๆ และรวดเร็ว ส่วน repair จะหมายถึงการซ่อมแซมที่ซับซ้อนกว่า ใช้เวลามากกว่า และอาจต้องใช้เครื่องมือหรือความชำนาญเฉพาะทางมากกว่า
ลองดูตัวอย่างประโยคกันค่ะ:
I need to fix my broken glasses. (ฉันต้องซ่อมแว่นตาที่พัง) – ในที่นี้ “fix” หมายถึงการซ่อมแซมแว่นตาที่อาจแค่ขันน็อต หรือติดกาวเล็กน้อย ไม่ใช่การซ่อมแซมที่ต้องใช้ความชำนาญมาก
The mechanic repaired my car engine. (ช่างซ่อมเครื่องยนต์รถของฉัน) – “repair” ในประโยคนี้อธิบายถึงการซ่อมแซมเครื่องยนต์รถยนต์ ซึ่งเป็นงานซ่อมแซมที่ซับซ้อน ใช้เวลา และความชำนาญของช่าง
I can fix this small hole in the wall. (ฉันสามารถซ่อมรูเล็กๆ บนผนังนี้ได้) – การซ่อมรูเล็กๆ บนผนัง อาจใช้แค่ปูนหรือเทปกาว เป็นการซ่อมแซมที่ง่ายและรวดเร็ว
They repaired the damaged roof after the storm. (พวกเขาซ่อมแซมหลังคาที่เสียหายหลังจากพายุ) – การซ่อมแซมหลังคาที่เสียหายจากพายุ อาจต้องใช้เวลามากกว่าและต้องมีการตรวจสอบความเสียหายอย่างละเอียด เป็นงานซ่อมแซมที่ซับซ้อนกว่า
He fixed the leaky faucet. (เขาซ่อมก๊อกน้ำที่รั่ว) - การซ่อมก๊อกน้ำที่รั่วอาจเป็นการซ่อมแซมที่ง่าย เช่นการเปลี่ยนยางรองก๊อกน้ำ
The computer needed a major repair after the power surge. (คอมพิวเตอร์ต้องซ่อมแซมอย่างใหญ่หลวงหลังจากไฟกระชาก) - การซ่อมคอมพิวเตอร์หลังไฟกระชาก อาจต้องมีการเปลี่ยนชิ้นส่วนภายในหลายชิ้น เป็นการซ่อมแซมที่ซับซ้อนและใช้เวลา
โดยสรุปแล้ว fix มักจะใช้กับการซ่อมแซมเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำได้ง่ายๆ และรวดเร็ว ส่วน repair มักจะใช้กับการซ่อมแซมที่ซับซ้อนกว่า ใช้เวลามากกว่า และอาจต้องใช้ความชำนาญเฉพาะทาง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะแบ่งแยกได้ชัดเจนเสมอไป ขึ้นอยู่กับบริบทของประโยคด้วย
Happy learning!