หลายคนอาจคิดว่าคำว่า "freedom" และ "liberty" ในภาษาอังกฤษมีความหมายเหมือนกัน แต่จริงๆ แล้วมีความแตกต่างกันอยู่ โดยทั่วไปแล้ว "freedom" หมายถึงการเป็นอิสระจากข้อจำกัดหรือการควบคุมใดๆ อาจหมายถึงเสรีภาพในการทำสิ่งต่างๆ ตามที่ต้องการ ในขณะที่ "liberty" มักหมายถึงเสรีภาพหรือสิทธิที่ได้รับการรับรองตามกฎหมายหรือข้อตกลง เป็นเสรีภาพที่ได้รับการคุ้มครอง เช่น เสรีภาพในการพูด เสรีภาพในการนับถือศาสนา เป็นต้น
ลองดูตัวอย่างประโยคเปรียบเทียบกันนะคะ:
Freedom: He felt a sense of freedom after he quit his job. (เขา احساس آزادی را بعد از ترک شغل خود حس کرد.) ประโยคนี้เน้นถึงความรู้สึกอิสระส่วนบุคคล หลังจากที่เขาลาออกจากงาน เขาจึงรู้สึกอิสระไม่ต้องถูกจำกัดด้วยหน้าที่การงาน
Liberty: The Declaration of Independence guarantees liberty to all citizens. (ประกาศอิสรภาพรับประกันเสรีภาพให้กับพลเมืองทุกคน) ประโยคนี้เน้นถึงเสรีภาพที่ได้รับการรับรองตามกฎหมาย คือเสรีภาพที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย
อีกตัวอย่างหนึ่งนะคะ:
Freedom: The birds enjoyed their freedom in the sky. (นกเหล่านั้นมีความสุขกับอิสรภาพบนท้องฟ้า) หมายถึงเสรีภาพในการบิน ไม่ถูกจำกัด
Liberty: The protesters fought for their liberty of speech. (ผู้ประท้วงต่อสู้เพื่อเสรีภาพในการพูดของพวกเขา) หมายถึงเสรีภาพในการพูด ซึ่งเป็นสิทธิที่ได้รับการคุ้มครอง แม้ว่าในบางกรณีอาจมีข้อจำกัดตามกฎหมายก็ตาม
ดังนั้น แม้ว่าทั้งสองคำจะเกี่ยวข้องกับความเป็นอิสระ แต่ "freedom" เน้นความรู้สึกส่วนตัว ในขณะที่ "liberty" เน้นถึงสิทธิและเสรีภาพที่ได้รับการรับรอง การเลือกใช้คำจึงขึ้นอยู่กับบริบทของประโยคค่ะ
Happy learning!