หลายคนมักสับสนระหว่างคำว่า "private" และ "personal" ในภาษาอังกฤษ เพราะดูเหมือนมีความหมายใกล้เคียงกัน แต่จริงๆ แล้วมีความแตกต่างสำคัญ "Private" หมายถึงสิ่งที่เป็นความลับ ไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ หรือเป็นของส่วนตัวที่ไม่เกี่ยวข้องกับคนอื่น ส่วน "personal" หมายถึงสิ่งที่เกี่ยวกับตัวบุคคล ความรู้สึก หรือประสบการณ์ส่วนตัว อาจจะไม่จำเป็นต้องเป็นความลับก็ได้
ลองดูตัวอย่างประโยคเปรียบเทียบกันดูนะคะ:
Private: "This is my private diary; please don't read it." (นี่คือไดอารี่ส่วนตัวของฉัน; อย่าอ่านมันเลยนะ) ในประโยคนี้ ไดอารี่เป็นของส่วนตัว และเป็นความลับ ไม่อยากให้ใครอ่าน
Personal: "I have some personal questions to ask you." (ฉันมีคำถามส่วนตัวบางอย่างอยากถามคุณ) ในประโยคนี้ คำถามอาจจะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นความลับ อาจจะแค่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของผู้ถาม
Private: "We need a private room for our meeting." (เราต้องการห้องส่วนตัวสำหรับการประชุมของเรา) หมายถึงห้องที่เป็นส่วนตัว ไม่มีคนอื่นเข้ามาได้ เพื่อความเป็นส่วนตัวในการประชุม
Personal: "I don't like to share my personal life with strangers." (ฉันไม่ชอบแชร์ชีวิตส่วนตัวกับคนแปลกหน้า) หมายถึงแชร์เรื่องราว ประสบการณ์ ความรู้สึกส่วนตัว
Private: "She has a private collection of stamps." (เธอมีคอลเลกชันแสตมป์ส่วนตัว) หมายถึงคอลเลกชันที่เก็บไว้เป็นส่วนตัว อาจจะไม่เปิดเผยให้คนอื่นดู
Personal: "That's a personal matter, and I don't want to discuss it." (นั่นเป็นเรื่องส่วนตัว และฉันไม่อยากพูดถึงมัน) หมายถึงเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตส่วนตัว แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นความลับเสมอไป
สังเกตได้ว่า "private" เน้นความเป็นส่วนตัว และการไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ ส่วน "personal" เน้นความเกี่ยวข้องกับตัวบุคคล แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นความลับเสมอไป การเข้าใจความแตกต่างนี้จะช่วยให้การใช้ภาษาอังกฤษของคุณดีขึ้นค่ะ
Happy learning!